Forex, EA, Binary Option, Signals, affiliate

Forex, EA, Binary Option, Signals, affiliate
แหล่งความรู้สำหรับผู้เริ่มต้นการเทรดค่าเงิน มาเรียนรู้ไปด้วยกันอย่างถูกต้อง

อย่าคิดว่าคุณจะกำไรตลอดไป




ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แรกเริ่มเดิมทีที่เข้ามาในตลาดหุ้น คนส่วนหนึ่ง (หรืออาจส่วนใหญ่) มักจะทำกำไรได้กันได้ และก็ได้ทีละมาก ๆ กันด้วย 

แต่พอได้มาดูวิธีการเทรดของเขาเหล่านั้น กลับพบว่าพวกเขาจะออกแนว overtrade กันเกือบทั้งสิ้น ทำกำไรกันทีละหลายพัน ไปจนถึงหลักหมื่นในแต่ละวัน จึงทำให้พวกเขามีความฮึกเหิมลำพองว่าตนเก่ง หรือเข้าใจว่าตลาดหุ้นเป็นแหล่งทำเงินที่ง่ายซะเหลือเกิน พอได้มาก ๆ เข้า ก็ overtrade กันเข้าไปอีก กะว่าออก order เพียงแค่ 1-2 ครั้ง ก็ถอนเงินหลักหมื่นเข้ากระเป๋าสบายใจ จนไม่สนใจว่าจะเข้าเทรดด้วยระบบอะไร มีข่าวสารด้านใดบ้างที่เป็นส่วนสำคัญในการขึ้นลงของราคา 

จนกระทั่งวันที่โชคไม่เข้าข้าง จัด lot หนักเข้าไปเหมือนเดิม แต่กราฟกลับไม่เป็นใจวิ่งสวนทางเอาซะดื้อ ๆ ประกอบกับไม่เคยฝึกแก้ไขปัญหาในระหว่างการเทรดมาก่อน จึงได้แต่นั่งภาวนาว่าขอให้กราฟกลับมา จนกระทั่งโดนลากไปจนพอร์ตแตก หรือล้างพอร์ตจนได้ ในส่วนนี้ความรู้สึกต่าง ๆ ประเดประดังเข้ามา กำไรที่เคยสั่งสมไว้ หรือเงินทุนที่นำมาเทรดในคราวนี้หลายไปในพริบตา ความมั่นใจว่าตนเก่งกาจหายไปจนสิ้น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก สตั๊นไปหลายชั่วโมง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านบทเรียนนี้มาคงน่าจะพอเข้าใจมันดี มี 2 ทางที่คุณจะเลือก คือ ตั้งสติแล้วเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ในการเทรดอย่างจริงจัง เพื่อที่จะตอบตัวเองได้ว่าเทรดอย่างไรให้มีกำไร ไม่ต้องมากหรอก แค่พอให้มีกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ รู้จักอารมณ์ตัวเองในการเทรด ระงับยับยั้งมันได้หากกราฟมันไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ หรือ ไม่เอาอีกแล้วจะไม่กลับมาเทรดอีกต่อไป หากคุณผ่านมาอ่านบทความความนี้หวังว่าคุณจะเลือกทางเลือกแรก เพราะนั่นหมายความว่าคุณพร้อมที่จะวางอดีตลงอย่างช้า ๆ และพัฒนาตนเองต่อไป ซึ่งนับได้ว่าคุณพร้อมที่จะเริ่มนับ 1 ใหม่ได้อีกครั้ง

แน่นอนว่าทุกคนต้องการ “กำไร” ไม่มีใครต้องการ “ขาดทุน” แต่กับดักที่ทำให้นักเทรดหลงลืมได้ก็คือการที่คุณสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จนลืมไปว่ายังไงก็ตามคุณก็ยังต้องเทรดอย่างระมัดระวังอยู่ดี แม้แต่ผู้ที่อยู่ในตลาดเทรดมานานแสนนาน ก็ยังมีวันพลาดด้วยเช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าการขาดทุนจะบั่นทอนจิตใจมากมายแค่ไหน ก็ขอให้รู้ว่าขาดทุนเพราะอะไร แล้วมีกำลังใจที่จะพัฒนาต่อไป และหากมีกำไรต่อเนื่องมานานก็อย่าได้ลำพองว่าจะเทรดได้เช่นนั้นตลอดไป นักเทรดที่เทรดด้วยความระมัดระวัง จะสามารถยืนระยะอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างยาวนาน

หากคุณเพิ่งเริ่มเข้ามาในตลาดหุ้น ก็อย่าได้วางใจให้การเทรดหุ้นเป็นอาชีพหลักของคุณ บางคนถึงกับลาออกจากงานประจำมานั่งเทรดหุ้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากเพราะคุณจะมุ่งหวังเพียงแต่กำไร ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่นักเทรดจะไม่ขาดทุน และจะทำให้คุณเครียดเป็นทวีคูณเพราะความหวังเดียวในชีวิตคุณคือการเทรดหุ้น ที่คุณไม่รู้ได้เลยว่าผลมันจะออกมา “กำไร” ทุกครั้งหรือไม่

ฝึกสมาธิร่วมกับการเทรดค่าเงิน





จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ ? หลายคนมีคำถามแบบนี้ในใจ

จากประสบการณ์ หากถามว่าจำเป็นหรือไม่ ? ตอบว่า “ไม่จำเป็น” หากเทรดเดอร์เป็นผู้มีสมาธิเป็นปกติอยู่แล้ว ในที่นี้หมายถึง ไม่ว่าจะเจอกับราคาค่าเงิน หรือราคาหุ้นที่กระชากวิ่งขึ้น วิ่งลง อย่างลืมโลก ไม่สนว่าใครจะเข้า order อะไรไว้ แล้วเทรดเดอร์สามารถควบคุมสมาธิ และมีสติไม่ตกใจตื่น แม้ว่าพอร์ตกำลังจะแตกแล้วก็ตาม ก็ให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้เลย คุณสามารถเป็นเทรดเดอร์ที่ดีได้แน่ ๆ ในอนาคต แต่หากคำตอบคือ “ยังทำใจไม่ได้” ก็เป็นเหตุผลอันสมควรว่าทำไมคุณจึงต้องฝึกสมาธิให้มาก ๆ 

ไม่มีอะไรแน่นอนในตลาดหุ้น ตลาด forex ตลาด binary option ทั้งนั้น สิ่งที่นักลงทุนจะผ่านช่วงเวลา นาทีเป็น นาทีตายได้ก็คือการนำหลักธรรมมะเข้ามาช่วยในการเทรด ก่อนที่จะกด order ต้องมั่นใจก่อนว่าเราได้เช็คข่าว หรือดูเทรนกราฟในแต่ละวัน หรือแต่ละช่วงเวลามาแล้วเป็นอย่างดี พอกด order ออกไปแล้ว ก็ให้มีสมาธิ ให้นิ่งเข้าไว้ หากกราฟไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ก็ให้ดึงสติกลับมา อย่าใจเสียจนปล่อยให้ลากไปจนพอร์ตแตก หรือล้างพอร์ต ดึงสติกลับมาเพื่อที่จะ cutloss มันออกไปก่อน หรือใครตั้ง stop loss เอาไว้แล้ว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีให้ความผิดพลาดครั้งนี้ผ่านไป และต้องไม่ลืมตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมเราจึงเข้า order ผิดพลาด แล้วอย่าเพิ่งพลีพล่ามเอาคืน เพราะอารมณ์ตรงนี้คงไม่ไหวที่จะเทรดต่อไป สู้ปิดทุกสิ่งอย่างก่อน แล้วมาตั้งสติ ทำสมาธิใหม่จะดีเสียกว่า

การที่เราฝึกธรรมมะไว้มาก ๆ จะทำให้เราเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้น มีอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน จะเทรดชนะก็ดี จะเทรดแล้วแพ้ก็ดี ให้รู้สึกตัวอยู่เสมอ แล้วเราจะเห็นว่ากราฟในแต่ละวัน แต่ละนาที แต่ละชั่วโมง ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ เลย เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ซึ่งเป็นวัฎจักรของมัน ผู้ที่อยู่รอดและเทรดมาเป็นเวลานาน เชื่อว่าส่วนใหญ่เข้าใจในประเด็นเหล่านี้ดี เค้าจึงไม่เทรดด้วยการนั่งเฝ้ามันอยู่ทั้งวัน แต่เค้าจะเทรดด้วยความพร้อม พร้อมทั้งกาย พร้อมทั้งใจ และเข้าใจดีกว่า จะชนะ หรือจะแพ้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ได้แล้วก็หยุด เสียแล้วก็หยุด เหมือนกับการเทรดด้วยสติ ไม่ใช้อารมณ์ 

อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญก็คือ เมื่อเทรดเดอร์จับอารมณ์จิตใจของตัวเองได้แล้ว เวลาที่ลงสนามเทรดก็จะเพียงจับเอาระบบที่เทรดของเรามาทำตามเท่านั้น สัญญาณมาให้เข้าเทรดได้ เราก็เข้าเทรดไปตามนั้น หากสัญญาณไม่มา ก็อย่างเพิ่งรีบดันทุรังเข้าไปเทรดเพราะจะมีแต่เสีย กับเสีย เช่น กราฟอยู่ในช่วงไซต์เวย์ ก็ให้รอดูก่อนว่าต่อไปกราฟจะเป็นเทรนอะไร ค่อยหาจังหวะเข้า เพราะช่วงไซต์เวย์นี้ กราฟจะออกมาเป็นเทรนใดก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น 

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ถนัดเทรดในช่วงเวลาที่มีข่าว ก็ให้รอจังหวะช่วงเวลานั้น แต่หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่เทรดไปตามเทคนิคก็ทำตามระบบคุณต่อไปให้ได้เท่านั้น พลังของจิตใจที่เป็นสมาธิจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดได้ในสักวัน และอย่า Overtrade รู้จัก cutloss ให้เป็น ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ทำลายความโลภในใจออกไปให้ได้ เก็บเล็ก เก็บน้อยให้เป็น แล้วคุณจะเห็นและเข้าใจมันเอง

money management





การจัดการการเงิน นักเทรดรุ่นพี่หรือนักเทรดที่อยู่ในตลาด Binary Option หรือตลาด Forex มาสักระยะหนึ่ง จะพยายามบอกนักเทรดรุ่นใหม่อยู่เสมอว่า money management เป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีการพูดถึงเรื่อง “กำไร” กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้นักเทรดรุ่นใหม่คิดว่าทำเงินได้ง่าย ๆ จึงทำให้คนทั่วไปคิดว่า money management ไม่ค่อยสำคัญ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมีความสำคัญมากกว่าการใช้ระบบเทพ ๆ ด้วยซ้ำไป 

เข้าใจว่า ทุกคนต้องการมีรายได้ อยากรวยเร็ว ๆ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ากำลังเดินอยู่บนความเสี่ยงแต่ก็ยังยอม คุณรู้หรือไม่ว่า คุณตกม้าตายตั้งแต่เริ่มแล้ว หากคุณนำเงินพ่อแม่มาใช้ในการเทรด หรือนำเงินค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาใช้คุณก็แพ้แล้วหละ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการลงทุนครั้งนี้มันจะทำ “กำไร” หรือ “ขาดทุน” ให้กับคุณ และใจคุณไม่นิ่งพอที่จะรับผลขาดทุนได้เลยด้วยซ้ำไป ความคาดหวังที่คุณหมายมั่นปั่นมือมาก ๆ ว่าจะต้องได้กำไรอย่างแน่นอนกลับเข้ามาบดบังอันตรายไปซะหมด 

ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีใครบอกคุณได้ สิ่งที่จะช่วยคุณได้บ้างก็คือ การเทรดไปตามระบบที่คุณได้ศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี และยอมรับให้ได้ว่าไม่มีระบบที่ไหน 100% หากขาดทุน คุณจะสามารถยอมรับมันได้ และพร้อมลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง เพราะเงินทุนคุณยังพอมีให้พัฒนาทักษะในการเทรดได้ต่อไป

คุณจะรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวทันทีที่คุณลงมือเทรด แล้วผลไม่เป็นไปตามที่คุณคาดคิด เพราะเจ้าเงินร้อนนี่แหละ เป็นสาเหตุหนึ่งที่เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าทำไมตลาดถึงอยู่ได้ และมีนักเทรดเพียง 10% เท่านั้นที่ยังทำกำไรได้เรื่อยๆ เพราะนักเทรดเงินร้อนนำเงินทุนมาละลายกับตลาด ตลาดก็นำเงินร้อนเหล่านั้นไปจ่ายให้กับนักเทรดเงินเย็น เท่านั่นเอง เป็นไงกันบ้างหละแบบนี้แล้วยังอยากรวยเร็วกันอยู่อีกหรือไม่

แต่อย่าได้กังวลมากเกินไป ทุกตลาดและทุกโบรคเกอร์ แม้แต่ ตลาด Binary Option หรือ ตลาด Forex เอง ก็มีระบบ demo ให้คุณได้ทดลองก่อน คุณสามารถทดสอบได้จนกว่าคุณจะมั่นใจ หลาย ๆ คนมักจะบอกว่าเทรดเงินจริงไปเลย เงินจริงกับเงินปลอมให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน คุณอาจจะทำกำไรกับ demo ได้อย่างมากมาย แต่พอมาลงเงินจริงกลับขาดทุนสบั้นหั่นแหลก

ผู้เขียนขอเห็นต่างสักนิด ที่เลือกทดสอบตลาดก่อนด้วย demo เพราะมันเป็นการฝึกวินัย ฝึกการใช้ระบบ ฝึกการใช้อินดิเคเตอร์ และที่สำคัญฝึกการวางแผนในการเทรด เราต้องคิดเสมอว่านี่คือเงินจริงไม่ใช่เงินปลอม แล้วเข้าเทรดไปตามสัญญาณนั้น จากนั้นก็จดทุกครั้งหลังจบการเทรด ว่าเรากำไรหรือขาดทุน แล้วหัดวิเคราะห์ตามด้วยว่าผลที่ได้มานั้นเรายังขาดทักษะด้านใดไปบ้าง ทำเช่นนี้เป็นประจำต่อเนื่อง แล้วกำหนดเวลาไว้เลยว่าเราจะทดสอบกี่เดือน จึงจะลงสนามจริง

ยังไม่ต้องรีบรวย รีบจน พัฒนาตนเองให้มีทักษะในการเทรดให้ได้ก่อน หากผลการใช้ระบบที่เราสร้างไว้เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงการจัดการการเงินที่ลงตัว จะลงสนามเมื่อไรก็สุดแล้วแต่นักเทรดเลยก็แล้วกัน

รู้จัก Indicator ตัวช่วยในการเทรด




นอกจากอินดิเคเตอร์แล้วก็ยังมีตัวกราฟแท่งเทียน และเส้นเทรนไลน์อีกที่เราต้องค่อย ๆ เรียนรู้เพราะเป็นส่วนสำคัญในการเทรดด้วยเช่นกัน

เรามาเจาะในเรื่องของ Indicator กันก่อน เพราะมีนักเทรดจำนวนไม่น้อยที่ใช้เพียง indicator ไม่กี่ตัวก็สามารถทำกำไรในตลาด Binary Option และ ตลาด Forex ได้ และยังทำให้พวกเขายืนระยะการเทรดแบบยาว ๆ กันได้เลย คืออะไร ยืนระยะการเทรดแบยาว ๆ ก็คือการสามารถอยู่ในตลาดเทรดค่าเงินแห่งนี้ได้เรื่อย ๆ มองเห็นว่าสามารถทำกำไรได้ไม่ยากเกินไป เพราะพวกเขามี indicator ที่พวกเขาเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง ผ่านการทดสอบมาครั้งแล้วครั้งเล่า อาจจะมีบ้างที่ต้องพบกับการขาดทุน แต่ว่าสถิติการทำกำไรกลับมากกว่าจนน่าพอใจ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เลือกใช้มัน จริงไหม๊?

Indicator เป็นเครื่องมือทางด้านสถิติและคณิตศาสตร์ ที่มาช่วยพยากรณ์ทิศทางของราคาไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงและก็ยังเป็นตัวให้สัญญาณยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น มันจะส่งสัญญาณให้เรารู้ว่าหากราคาหุ้นทะลุแนวต้านไปแล้วให้เราเข้าออเดอร์ขาย และหากราคาหุ้นทะลุแนวรับจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าให้เราเข้าออเดอร์ซื้อ เป็นต้น อินดิเคเตอร์สามารถนำมาเป็นตัวบอกสัญญาณและคาดการณ์ราคาของหุ้นในอนาคตได้ด้วย

Indicator บางตัวจะช่วยนักเทรดในการชี้ทิศทางของตลาด โดยสถิติที่ได้มานั้นก็จะเอาจิตวิทยาการเล่นหุ้นของนักลงทุนทั้งตลาดมาประเมินร่วมกับ indicator นั้นๆด้วย เพราะพฤติกรรมต่างๆของราคาปกติแล้วจะเกิดขึ้นช้าไม่ก็เกิดขึ้นซ้ำๆ และก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆ เช่น ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันไม่ว่าจะเป็นด้านดี หรือด้านร้าย ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้ indicator เหล่านี้ ส่งสัญญาณออกมาไปตามความผิดปกตินั้นได้ด้วยเช่นกัน

“อินดิเคเตอร์” ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ การใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไป และในแต่ละตัวมีความแม่นยำต่างกัน เพราะฉะนั้นในเมื่อเราตัดสินใจเลือกใช้อินดิเคเตอร์ตัวใดก็ตามมาเป็นเครื่องมือนำทาง เราก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับมันก่อนที่จะนำมาใช้ ที่บอกว่ามีความแม่นยำก็ต้องรู้ว่าแม่นยำในจุดใด ส่งสัญญาณมาแบบไหน เราจึงเข้าออเดอร์ตาม

หากคุณเลือกใช้ Indicator เพียงเพราะคนอื่นใช้แล้วเขาสามารถทำกำไรได้มากมาย คุณก็กระโดดเข้าไปร่วมวงด้วย และคุณพบว่าคุณไม่สามารถทำกำไรจากมันได้เลย ยิ่งเทรด ยิ่งใช้มัน ยิ่งสับสน จิตใจที่เคยนิ่ง ๆ ก็กลับกระวนกระวาย เพราะคิดว่ามันจะพาคุณไปทำกำไร แต่ท้ายที่สุดกลับพบกับการขาดทุนที่คาดไม่ถึง นั่นเป็นเพราะว่าคุณไม่ได้ทำความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร มันให้สัญญาณเร็วหรือมันให้สัญญาณช้ามากน้อยขนาดไหน คุณถึงเข้าออเดอร์ได้ 

มาถึงตรงนี้แล้ว มันไม่สำคัญว่าคุณใช้อินดิเคเตอร์ตัวไหน หรือไม่ใช่มันเลย แต่สำคัญว่าเครื่องมือนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่ บางคนชอบความรวดเร็ว ชอบเทรดบ่อย ๆ ก็ใช้ตัวที่ให้สัญญาณเร็ว เช่น Oscillator แต่หากบางคนสามารถรอสัญญาณที่ช้า แต่มีความแม่ยำสูง ก็อาจจะเลือกใช้ EMA ก็ได้ เมื่อคุณเลือกที่จะใช้ Indicator ตัวใดแล้วก็ตามคุณต้องระลึกไว้เสมอว่าอินดิเคเตอร์ชุดนี้จะเป็นตัวชี้นำและเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการตัดสินใจต่อการลงทุนของคุณ 

เส้นเทรนไลน์ มาทำความรู้จักกันสักนิด




ก่อนหน้านี้ได้พูดถึงภาพรวมของอินดิเคเตอร์ไปบ้างแล้ว นักเทรดหน้าใหม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จัก นอกจากนี้การอ่านกราฟในรูปแบบเส้นเทรนไลน์เพื่อดูเทรนแนวโน้มของราคา ก็เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าแนวโน้มกำลังจะเป็นขาขึ้นหรือเป็นขาลงหรือว่ากำลังอยู่ในแนว side way สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะมันจะต้องนำไปวิเคราะห์คู่กับเส้นกราฟแท่งเทียนด้วย แท่งเทียนในอดีตจะเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าแท่งเทียนต่อไปจะเป็นอย่างไร และแนวโน้มทิศทางของตลาดในคู่เงินนั้นจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงได้ด้วยเช่นกัน

เส้นเทรนไลน์หากนักเทรดใช้เป็นและนำมาใช้ในการเทรดจะเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ทรงพลังมาก หัดลากเส้นบ่อย ๆ จะพบว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย การเทรดในยุคแรกๆ ก็นิยมใช้เส้นเทรนไลน์กันอย่างมาก บางรายก็มีการนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับตนเองซึ่งนักเทรดอาจจะเข้าใจได้เอง (แต่ผู้อื่นอาจจะไม่เข้าใจ) ทำให้ในช่วงเวลาเทรดมีความแม่นยำและทำให้มีสถิติการทำกำไรมากกว่าขาดทุนอีกด้วย

นักเทรดมือใหม่เองก็หัดใช้เส้นเทรนไลน์ได้อย่างไม่ยากเพราะการฝึกลากเส้น trend line จะทำให้เราเกิดความชำนาญและมีความมั่นใจในการเทรดมากยิ่งขึ้น เส้นเทรนไลน์จะทำให้เราหลุดพ้นจากการคาดเดาไปได้ระดับหนึ่งซึ่งสามารถใช้ไ้ในทุก ๆ ตลาด รวมถึงตลาดใหญ่อย่าง Forex ด้วย นักเทรดมือใหม่อาจไม่ให้ความสนใจมากนักเพราะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสักระยะบวกกับการฝึกฝน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเพราะเส้นเทรนไลน์เป็นตัวที่บอกเราว่าตอนนี้กราฟกำลังอยู่ในแนวโน้มใดก็ให้เราหาจังหวะเข้าซื้อหรือขายไปตามแนวโน้มนั้น จะทำให้มีโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าเทรดด้วยการคาดเดา นั่นหมายถึงว่าคุณไม่มีหลักการอะไรเลยการเทรด หวังเพียงจังหวะฟลุ๊คเพียงอย่างเดียว ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะอยู่รอดในตลาดนี้ยากเหลือเกิน

เส้นเทรนไลน์มีอยู่ 3 ประเภท ในส่วนนี้จะอธิบายแบบเบื้องต้นเพื่อให้ได้ทำความรู้จักกันก่อน เพราะจะว่าไปแล้วก็มีความลึกซึ้งอยู่พอควร

เส้นแนวรับในเทรนขาขึ้น
ส่วนมากจะถูกลากตัดผ่านบริเวณที่เป็นจุดย้ำฐานของราคา และจะเป็นช่วงแนวรับที่มีความแข็งแรงค่อนข้างสูง ด้วยความที่มีความแข็งแกร่งค่อนข้างมากถ้าหากราคาหลุดลงจากเส้นแนวรับนี้ลงไปเมื่อไร ราคาหุ้นก็จะไหลลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วได้ 

เทรนไซด์เวย์
ในส่วนนี้ยังไม่ควรเข้าไปเทรด ให้รอดูก่อน เพราะเป็นช่วงที่ยังไม่เห็นเทรนชัดเจน และราคาก็จะแกว่งไปมาในกรอบแคบ ๆ นี้อยู่ตลอดเวลา ให้สังเกตหรือตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่าหากก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นเทรนขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม แต่แนวรับนี้สามารถรับอยู่ได้ตลอด ก็ให้นักเทรดระวังไว้ว่า เทรนที่กำลังจะตามมาอาจมีแนวโน้วเป็นขาขึ้นสูงมาก

เส้นแนวรับในเทรนขาลง
มีอีกชื่อที่เรียกกันเล่นๆว่าเป็น “เส้นลดระดับ” ในความเป็นจริงเส้นชนิดนี้จะเป็นเส้นเดียวโดดๆ มักจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมใช้งานกันเท่าไรนัก ส่วนมากที่เราพบเห็นการใช้งานในลักษณะนี้มักจะเป็นเส้นในรูปแบบของเส้นคู่ขนานซะมากกว่า เพราะทำให้สัญญาณต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่า สำหรับเส้นเดียวโดดๆมักจะไม่ได้รับความนิยมในการใช้งานจริง แต่หากใครอยากลากเส้นขึ้นเพื่อใช้ประมาณการลดตัวลงของราคาก็ใช้ได้โดยไม่ผิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดซะมากกว่า

เทรดค่าเงิน 2 ทางกับ Binary Option





อย่างที่เคยได้เกริ่นเอาไว้เสน่ห์ของ Binary Option ก็คือ เราสามารถเทรดหุ้นได้ 2 ทาง หมายถึงหากเราคิดว่าราคากำลังจะขึ้นเราก็เลือกที่จะซื้อได้ แต่หากเราคิดว่าราคากำลังจะลงเราก็สามารถสั่งขายได้ด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่านักเทรดสามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ทาง มอง ๆ ดูแล้วสามารถสร้างรายได้ได้ไม่ยากเลยใช่ไหม๊ แต่ขอย้ำว่าการที่เราสร้างกำไรได้ทั้งสองทางอาจฟังดูแล้วเป็นสิ่งที่นักเทรด นักเก็งกำไร หรือแม้แต่นักพนันก็ถวิลหาและต้องการที่จะเข้ามาเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น แต่การสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็วก็ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งละกันว่าคุณก็สามารถขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ไบนารี่ออฟชั่น เป็นการลงทุนชนิดหนึ่งที่พูดได้ว่าเป็นการใช้เงินลงทุนที่ต่ำ เพียงเริ่มต้น 10$ ก็สามารถเริ่มเทรดกันได้เลย มากไปกว่านั้นคือให้ผลตอบแทนที่สูงไม่จำกัด คิดง่ายๆว่าสามารถเทรดได้ทุกวันและหากคุณสามารถทำกำไรได้ทุกวัน ใน 1 เดือนคุณจะสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลภายใต้เงื่อนไขที่ว่า คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงและขอบเขตการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหากคุณมีความเข้าใจในการเทรดไม่ว่าจะเป็นการดูกราฟหรือการเลือกใช้อินดิเคเตอร์ใดๆก็ตาม จะทำให้คุณสามารถคาดการณ์ทิศทางการเทรดล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำเลยทีเดียว 

คุณเคยได้ยินคำว่าจิตวิทยาการเทรดหุ้นบ้างหรือเปล่า Binary Option ที่สามารถเทรดได้ทั้ง 2 ทางเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้แมลงเม่าทั้งหลายกระโจนเข้ามากันอย่างมากมาย หลายคนเข้ามาเพียงคิดแค่ว่าทำเงินได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความหวังในการทำกำไรโดยลืมคิดไปว่าหากขาดทุนขึ้นมาเราจะสามารถรับมันได้มากน้อยแค่ไหน 

นักเทรดที่อยู่ในตลาดนี้มาเป็นเวลานาน นอกจะจากจะรู้ดีว่าการทำกำไรได้ง่าย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้ง 2 ทางของ Binary Option นอกจากจะเย้ายวนจิตใจแล้ว แต่พวกเขาก็รู้ว่าผลของการขาดทุนกระทบจิตใจมากแค่ไหนด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาสามารถระงับยับยั้งความผิดหวังจากการเทรดผิดพลาดได้โดยไม่ติดโพยตีพาย ไม่แสดงอาการเสียใจใดๆทั้งสิ้น เมื่อรู้ตัวว่าแพ้พวกเขาก็พร้อมที่จะหยุดมันทันที เพื่อทำสมาธิใหม่ปรับจูนสมองและจิตใจใหม่เพื่อให้ร่างกายและจิตใจมีความพร้อมที่จะเทรดต่อไปอีกครั้ง

การเทรดไบนารี่ออฟชั่นได้ทั้ง 2 ทางแบบง่ายๆ ก็เหมือนดาบ 2 คมดีๆนี่เอง นักเทรดไม่ควรหลงระเริงกับความง่ายจนลืมไปว่า ความยากมันมีมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยากกว่าการขาดทุนคือการจะทำอย่างไรให้ตัวนักเทรดเองสามารถยอมรับผลการขาดทุนได้ โดยพร้อมที่จะปรับปรุงระบบการเทรดใหม่ มิใช่คิดเพียงแต่ว่า “ตานี้ฉันแพ้ ตาหน้าฉันจะเอาคืน” หากคิดแบบนี้แล้ว ห่วงว่าจะเป็นตลาดมากกว่าที่จะเอาคืนนักเทรด อย่าให้ความโลภความโมโหเข้ามาครอบงำ จนทำให้เรากลายเป็นนักพนันในตลาดนี้ไปในที่สุด 

เทรดเดอร์ นักพนันมืออาชีพ นักพนักมือสมัครเล่น





เรามาดูกันว่านักเทรดผสมนักพนันเค้ามีการเตรียมความพร้อมในการเทรดแต่ละวันยังไงกัน

ที่ต้องบอกว่าแต่ละวันก็คือ พวกเขาจะติดใจกับการหาเงินในลักษณะแบบนี้ทุกวัน หากไม่เทรดค่าเงินพวกเขาก็ไปหาสิ่งอื่น ๆ ทำกันอยู่ดี และคงไม่ต้องพูดกันถึง “ความเสี่ยง” เพราะพวกเขาล้วนแล้วแต่เข้าใจเป็นอย่างดี ว่าความเสี่ยงในแต่ละวันเป็นอย่างไร

นักเทรดที่ยอมรับว่าตนเองเสมือนนักพนัน เขาเหล่านี้จะมีความได้เปรียบมากกว่าผู้ที่ไม่ยอมรับว่าตนเองคือนักพนัน เพราะว่าพวกเขาเข้ามาเทรดด้วยความรู้ในระดับหนึ่ง ไม่ได้กระโจนเข้ามาด้วยความไม่รู้อะไรเลยและที่สำคัญนักเทรดจำพวกนี้จะค่อนข้างรู้ตัวเอง พวกเขาจะนำเงินเข้าไปเทรดในจังหวะที่เขามั่นใจว่าจะทำเงินให้เขาได้ในเวลาอันรวดเร็ว และพร้อมที่จะเลิกเทรดทันทีที่เขาทำกำไรได้แล้วในวันนั้น แล้วในวันถัดไปพวกเขาก็จะกลับเข้ามาเทรดใหม่ในจังหวะเดิม ๆ อีกครั้ง

ถึงแม้ว่าจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของนักเทรดผสมกับนักพนันก็ตาม ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก ในเมื่อเขาสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องการพุดถึงเรื่องระบบเทพอะไรมากนัก อินดิเคเตอร์อาจจะใช้เพียงเส้น EMA 2 เส้นตัดกัน ก็เข้าทำกำไรได้เลย ฟังดูแล้วง่ายเหลือเกิน แต่เปล่าหรอกไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพียงแต่จะชี้ให้เห็นว่าจุดมุ่งหมายของการเทรดของแต่ละคนอยู่ที่เดียวกันก็คือ “กำไร” แต่วิธีการทำกำไรต่างหากที่ต่างกัน 

บางคนเรียกตัวเองอย่างสวยหรูว่าเทรดเดอร์ แต่วิธีการเทรดก็ดูไม่ต่างจากนักพนันเลย นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ในขณะที่เจอกับผลขาดทุน ประหนึ่งว่ารับไม่ได้และต้องการที่จะเอาคืน เทรดไปเทรดมากลับกลายเป็นล้างพอร์ตเอาซะดื้อ ๆ เรียกว่าไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว แบบนี้ต้องเปลี่ยนจากเทรดเดอร์ มาเป็นนักพนันมือสมัครเล่นกันซะแล้ว

ถ้างั้นมาดูกันสักหน่อยว่านักพนันมือสมัครเล่น มีลักษณะเป็นอย่างไร
ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ หวังจะทำกำไรอย่างเดียว
ไม่บริหารการเงิน วางเงินมากเกินความจำเป็น พอขาดทุนมีอาการรับไม่ได้
รู้ทั้งรู้ว่าความเสี่ยงเป็นอย่างไร แต่ก็ยังไม่วายที่จะนำตนเองไปยืนอยู่บนความเสี่ยงเกินจำเป็น
เข้ามาเทรดเพราะคิดว่าต้อง “กำไร” เท่านั้น หาก “ขาดทุน” จะรู้สึกไม่ยอมแพ้
คิดหวังเพียงกำไรที่มากถึงมากที่สุด แต่ขาดการวางแผนอย่างเป็นระบบ
เมื่อพบกับความผิดพลาดจะไม่ค่อยยอมรับว่าตนเองผิด แต่จะโทษระบบหรือสิ่งอื่น ๆ เรื่อยไป
มักจะถูกกำหนดการเทรดด้วยตลาดเสมอ เพราะตนเองไม่มีระบบการเทรด จึงทำให้ตกอยู่ในวังวนของการ “ขาดทุน” อยู่ร่ำไป

จะเห็นได้ว่า ทั้งเทรดเดอร์ นักพนันมืออาชีพ และนักพนักมือสมัครเล่น มีความแตกต่างกันอยู่มากเหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะถูกจัดให้อยู่ในประเภทไหน คุณจะยอมรับมันหรือไม่ก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือจิตใจของคุณเอง การวางแผนอย่างเป็นระบบ และการยอมรับว่าเราแพ้ และพัฒนาตนเองต่อไป สิ่งนี้ต่างหากที่จะทำให้คุณอยู่รอดในตลาด Binary Option หรือตลาดเทรดค่าเงินทุกที่ได้ แม้กระทั่งตลาด forex ด้วยเช่นกัน


จะเอาชนะตลาดได้อย่างไรดี





3m  Successful Tranding 1.Mind 2.Method 3.Money 

3 อย่างนี้น่าจะเคยผ่านหูผ่านตานักเทรดมาบ้าง เรามาดูกันก่อนว่าในส่วนนี้มีความหมายว่าอย่างไร และเราควรบริหารหรือใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับจริตการเทรดของเรา 

สิ่งที่นักเทรดทุกคนต้องการก็คือ “กำไร” และ “ชนะตลาด” นั่นเอง

1.Mind 
คือจิตวิทยาการเทรด ภายใต้ความโลภและความกลัว นักเทรดควรมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ระบบความคิดของเราต้องถูกจัดการมาแล้วอย่างเป็นระบบระเบียบ และต้องไม่ให้จิตวิทยามวลชลใด ๆ มาเป็นตัวทำลายกลยุทธ์ของเราลงไปได้ นักเทรดต้องสามารถควบคุมความโลภและความกลัวในตัวเองให้ได้บางครั้งนักเทรดอาจจะมีความคิดที่สวนทางกับคนส่วนใหญ่ แต่เราก็ต้องมั่นใจและหนักแน่นเข้าไว้ หากเราคิดว่าความคิดของเราถูกต้องก็อย่าให้คนส่วนใหญ่ทำให้สิ่งที่เราคิดไว้ต้องล้มลงกลางทาง ที่สำคัญผลที่ได้มันจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็จงยอมรับมันและนำมาพัฒนาต่อไป

2.Method 
คือวิธีการหรือกระบวนการในการวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งจริงๆแล้วจะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จได้ด้วยเช่นกัน

3.Money
คือการจัดการทางการเงินเพื่อให้ผลตอบแทนที่คาดไว้คุ้มกับความเสี่ยงของเงินที่นำมาลงทุน เงินทุนนั้นจะต้องไม่เป็นเงินที่หยิบยืมหรือเป็นหนี้สินมาเพื่อที่จะลงทุน ซึ่งนั่นหมายถึงว่าควรเป็นเงินออม และก็ไม่ใช่เงินออมที่มีทั้งหมด ต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า คุณยอมที่จะเสียมันไปได้หากเกิดขาดทุน เพื่อแลกกับประสบการณ์ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะตอบตัวเองได้ว่าคุณเหมาะกับตลาดที่มีความเสี่ยงสูงหรือเปล่าด้วย

นักลงทุนต้องระลึกไว้เสมอว่าการลงทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน เมื่อเราเลือกลงทุนด้วยวิธีใดแล้วก็ตามก็ต้องยอมรับความเสี่ยงด้วย นั่นคือ

Hight Risk >> Hight return
Low Risk >> Low return

ความหมายเป็นไปตามข้อความสั้น ๆ ข้างต้น สิ่งที่ควรย้ำตัวเองอยู่เสมอนั่นคือ Low Risk >> Hight return ในรูปแบบของการเทรดนั้น มันไม่มีความเป็นไปได้เลย

เมื่อนักเทรดเข้าใจ 3 ประเด็นข้างต้นแล้ว ก็ค่อย ๆ กลับมาบริหารจัดการตนเองไปทีละอย่าง การเข้าใจระบบการเทรดที่ตนเองสร้างขึ้นมาจะเป็นตัวการสำคัญในการทำกำไร ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราเก่ง จึงมั่นใจว่า “ชนะ” แน่นอน แต่คือเราสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ สามารถเทรดไปตามระบบได้ ไม่ได้เทรดไปตามมวลมหาประชาชน แต่หากเห็นตรงกันในครั้งนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเทรดได้มากขึ้น

เรื่องสำคัญที่ต้องย้ำกันอีกครั้งคือ การบริหารจัดการการเงิน นอกเหนือจากการใช้เงินออมในการลงทุนแล้ว นักเทรดที่ดีต้องบริหารการเทรดให้มีผลกำไรให้จงได้ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการศึกษา ทดลองเทรด และวิเคราะห์ด้วยทุกครั้ง ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เราเข้าเทรดเพราะอะไร มีสัญญาณอะไรบ่งบอก หรือเรายังไม่เทรดเพราะอะไร และหากผิดพลาดก็ต้องหาคำตอบให้ได้ด้วยว่าครั้งที่ผิดพลาดเป็นเพราะอะไร หากผิดพลาดแล้ว นักเทรด “หยุดเทรด” เป็นหรือไม่ หรือจะเอาคืนตลาดอย่างเดียว 

โปรดระลึกไว้เสมอว่า ก่อนที่จะเอาชนะตลาดได้นั้น เอาชนะใจตัวเองให้ได้ก่อน จะดีที่สุด

เครื่องมือที่นำมาเป็นตัวช่วยในการเทรด





การเทรดหุ้น หรือการเทรดค่าเงิน เป็นศาสตร์อย่างนึงที่จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์ ส่วนใหญ่จะพูดถึง "อินดิเคเตอร์" ต่าง ๆ ที่มีมากมายมากกว่า 10 ตัว ต่างคนก็ต่างนำมาใช้ตามความถนัด แต่อีกมุมหนึ่งนักเทรดบางคนอาจจะบอกว่าไม่ได้ช่วยอะไรในการเทรดมากขนาดนั้น สู้ดูกราฟแท่งเทียนเปล่า ๆ ไม่ได้ เพราะอินดิเคเตอร์อย่างไรแล้วก็วิ่งตามราคาอยู่ดี เป็นต้น

ในส่วนนี้ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวอะไร ไม่ต้องถกเถียงกันให้เสียเวลาไม่ได้มีประโยชน์หรือสาระสำคัญอะไร อยู่ที่ความเข้าใจและความพอใจของนักเทรดมากกว่า เพราะหลาย ๆ ครั้งที่นักเทรดคิดว่าเราเข้าใจในกราฟเปล่าแล้วจะใช้ระบบนี้ แต่พอได้ยินมาว่ามีระบบอินดิเคเตอร์เทพมาก สามารถทำกำไรได้ทุกตา เทรด 10 ตา ชนะ 10 ตา กำไรเน้น ๆ ก็ทำให้เรากระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยแบบไม่เข้าใจซักเท่าไหร่ อาจจะกลายเป็นเทรด 10 ตา ชนะ 2 แพ้ 8 ก็อาจเป็นได้ บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรแน่นอนในตลาดนี้เลย

ไม่ว่าจะเป็นการดูกราฟเปล่าหรือการนำเส้นอินดิเคเตอร์มาใช้ ทั้งหมดนี้ได้มีการศึกษาวิเคราะห์มาแล้วทั้งสิ้นว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ดังนั้นหากนักเทรดจะนำเครื่องมือใดๆมาใช้ ก็ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ว่าเข้ากันกับจริตนักเทรดหรือไม่ อย่างไร เพราะเครื่องมือต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพด้วยกันทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับการนำมาใช้ให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

การนำมาใช้ก็ต้องนำมาใช้ให้ถูกต้องกับบริบทของการเทรดด้วย indicator บางตัวเป็นตัวที่ให้สัญญาณช้า บางตัวให้สัญญาณเร็ว ก็ต้องถามใจนักเทรดก่อนว่าคุณชอบหรือเหมาะกับเครื่องมือแบบใดกันแน่ เพราะนักเทรดต้องให้เครื่องมือนั้นนำทางในการเทรดต่อไปเรื่อย ๆ จนตลอดรอดฝั่ง และอย่าลืมว่าเครื่องมือนี้จะมาเป็นตัวบังคับการเทรดของเราและช่วยเราในการตัดสินใจ ทันทีที่มันบอกสัญญาณ คุณก็ต้องเข้าออเดอร์ไปตามนั้น และคอยจับสังเกตว่าสัญญาณที่ส่งมาถูกต้องหรือไม่ สิ่งสำคัญอย่าตัดสินใจว่าสัญญาณถูกหรือผิดเพียงคุณนำมาใช้ไม่กี่ครั้ง เพราะคุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ผิดกี่ครั้งและผิดเพราะอะไร เครื่องมือให้สัญญาณผิดหรือเป็นเพราะคุณเองที่ไม่ได้เข้าตามสัญญาณ ก็ให้จดเอาไว้ทุกครั้งและนำมาตัดสินใจอย่างเป็นระบบต่อไป

นักเทรดจำเป็นต้องระลึกอยู่เสมอว่าเครื่องมือที่นำมาใช้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ เพียงเสี้ยววินาทีที่คุณออกคำสั่งไปแล้ว นั่นหมายถึงว่าคุณจะไม่มีทางเปลี่ยนมันได้อีก นั่งลุ้นด้วยใจระทึก นั่นคือสิ่งเดียวที่คุณทำได้ เครื่องมือเหล่านี้มันมีพลังในตัวของมันเอง เพราะมันเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะกำไรหรือขาดทุน

3 สิ่งสำคัญเบื้องต้นที่จะทำให้คุณเป็นนักเทรดคุณภาพ





ไบนารี่ออฟชั่น เป็นอีกตลาดหนึ่งในการหาเงินเข้ากระเป๋าของเราได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ได้ง่ายที่คิด แต่เราต้องมาปรับทัศนคติในการเทรดกันก่อน ว่าเราจะไม่เป็นนักพนันที่เข้ามามาเสี่ยง (เผื่อฟลุ๊ค) เท่านั้น แต่เราต้องบอกตัวเองว่าเราจะเป็น “นักเทรดคุณภาพ” เราจะเทรดเก่งในแบบที่เราเป็น เราจะสามารถออกแบบระบบการเทรดที่สุดยอดสำหรับตัวเราได้ 

มาดูการฝึกฝนตนเองเบื้องต้นง่าย ๆ กันก่อน แล้วเราจะตอบตัวเองได้ว่า “นักเทรดคุณภาพ” มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย

1.อ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเทรดหุ้น การเทรดค่าเงิน
คุณอาจจะต้องมีผู้ช่วยในการทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการเทรดค่เงินก่อนเป็นอันดับแรก และไม่ว่าคุณจะเลือกใช้หนังสือเล่มไหน ผู้เขียนเป็นใครก็ตาม เลือกได้เลย ในส่วนนี้ไม่มีข้อจำกัด เพราะใจความสำคัญของแต่ละเล่มไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ขึ้นอยู่กับลีลาของผู้เขียนมากกว่า เอาเป็นว่าหนังสือเล่มไหนที่คุณเปิดอ่านแล้วมีความรู้สึกว่าอ่านง่ายให้สาระ ให้ข้อคิด ให้แนวทางกับคุณได้ ก็เอาเล่มนั้นเลย 

แหล่งความรู้ไม่ได้มีเพียงแต่หนังสือเท่านั้น ระบบออนไลน์ช่วยคุณได้เยอะอยู่แล้วในปัจจุบัน ที่สำคัญคุณอย่าได้ไปเที่ยวฝากความหวังของคุณไว้กับใครคนใดคนหนึ่งมากจนเกินไป เพราะไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด และไม่เคยแพ้จากการเทรด คุณเองก็เช่นกัน จะแพ้ก็ดี จะชนะก็ดี ขอให้เรารู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุใด เพียงเท่านี้มันคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว สำหรับการเริ่มต้น

2.ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ
เนื่องจากไบนารี่ออฟชั่นเป็นการเทรดค่าเงิน ดังนั้นข่าวทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีความสำคัญและมีผลกระทบต่อค่าเงินโดยตรง ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่มีการวิเคราะห์ค่าเงิน หรือข่าวในแต่ละวันออกมาให้เราให้ติดตามมากมาย เช่น forexfactory ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักเทรดว่ามีความแม่นยำสูง เพราะนักเทรดจะต้องกำหนดทิศทางในการเทรดนาทีนั้น ๆ ให้ถูกต้องมากที่สุด เพื่อเก็บผลกำไรต่อไป ไม่เพียงเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและสังคมภายในประเทศและต่างประเทศด้วยที่เข้ามีผลกระทบถึงราคาค่าเงินด้วยเช่นกัน

3.จดผลการเทรดทุกครั้ง
ไม่ว่าผลการเทรดจะเป็นอย่างไร คุณอาจเริ่มต้นจากการเทรดด้วย demo คุณก็ต้องจดผลการเทรดด้วยทุกครั้งเพื่อที่จะได้นำมาวิเคราะห์ว่าในครั้งที่คุณเทรดแล้วมีกำไรเป็นเพราะอะไร ในครั้งที่คุณเทรดแล้วขาดทุนเป็นเพราะอะไร หรือคุณเทรดจำนวน 10 ครั้งติดต่อกัน มีกำไรกี่ครั้ง ขาดทุนกี่ครั้ง คุณจำเป็นต้องจดให้ครบถ้วน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณไม่ตะบี้ตะบันในการเทรดมากจนเกินไป และหากนาทีนั้นคุณเทรดเสียมากกว่าเทรดได้ สิ่งที่ตามมาคือ “ความอยากเอาคืน” ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเกือบ 100% คนที่อยากเอาคืนตลาด มักจะโดนตลาดเอาคืนอย่างสาสมก่อนทุกครั้งเสมอ ดังนั้นผลการเทรดที่คุณจดเอาไว้จะบอกคุณได้เองว่าคุณควรหยุดพักสักระยะหนึ่งหรือคุณควรจะไปต่อเลยในนาทีนั้นเลย

เตรียมความพร้อมในการเทรด Binary Option





ในยุคปัจจุบัน binary option เป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อยในตลาดทุนเป็นอย่างมาก เสน่ห์อย่างหนึ่งของ binary option ก็คือนักลงทุนสามารถเก็งกำไรได้ ทั้งสองขา คือ ทั้ง CALL และ PUT และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะจากประสบการณ์ การคาดเดา หรืออะไรก็ตามที่คุณเอามันมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจไม่ถือว่าผิดกฎกติกาอยู่แล้ว และคุณสามารถเลือกเล่นค่าเงินคู่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ 

จะว่าไปแล้ว binary option เป็นเครื่องมือการเทรดค่าเงินแนวใหม่ แต่ก็ไม่ได้ใหม่สำหรับนักลงทุนรุ่นเก๋า แต่สำหรับนักลงทุนหรือนักเก็งกำไรรุ่นใหม่ที่สนใจในการเทรดอาจจะยังไม่เคยได้ลงมือเทรดกันอย่างจริงจังเพียงแต่อาจจะได้ยินหรือผ่านหูผ่านตามาเท่านั้น แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเป็นอีกช่องทางการเทรดที่น่าทดลองไม่น้อยเช่นกัน

binary option เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเทรดไม่น้อยไปกว่าตลาดไหน ๆ หากเราศึกษาให้ลึกซึ้งเราจะพบว่า binary option มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว หากคุณมีความรู้ในการเทรดพอตัว คุณก็จะพบว่าคุณจะมีกำไรเกิดขึ้นทุกๆ 1 นาที แต่ช้าก่อน !! หากคุณไม่ได้ศึกษามาอย่างลึกซึ้งจริงจังเลย นั่นหมายความว่าทุกๆ 1 นาทีคือหายนะของเงินในกระเป๋าคุณเช่นกัน

พูดกันง่ายๆว่า binary option ก็คือการเทรดค่าเงินชนิดหนึ่ง ผู้ที่ได้เข้ามาในตลาดนี้แล้วก็ยากที่จะเลิกเทรด ถึงแม้ว่าจะเสียเงินไปกับตลาดนี้มากบ้างน้อยบ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าหลายๆคนก็ยังพยายามบอกตัวเองว่า “ยังไม่เข็ด” แล้วจะต้อง “เอาชนะมันให้ได้” เป็นเรื่องที่ดี หากคุณจะบอกตัวเองว่า “ยังไม่เข็ด” และพร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้ให้มีความเจนจัดในตลาด option อย่างผู้ที่มีองค์ความรู้อย่างจริงจังต่อไป 

เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า จะเทียบไปแล้วก็เหมือนกับการเล่นหวย และผู้ที่ชอบความเสี่ยงก็มักจะบอกว่าเสียแล้วก็เสียไปรอบหน้าก็เล่นกันใหม่อีก (แบบนี้อาจจะเข้าข่ายนักพนันมากกว่านักลงทุน) เพราะได้ขึ้นชื่อว่าความ “ความเสี่ยง” นั่นคือเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราจะ “ได้” หรือ “เสีย” เพราะเต็มไปด้วยการคาดการณ์แทบจะทั้งสิ้น เพราะตั้งใจมาเดาเอาลูกเดียวเลย ในทางกลับกันการคาดการณ์ของผู้เทรดจะแม่นยำมากขึ้น หากอาศัยองค์ความรู้ในการเทรดเข้ามาประกอบกันอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน “อินดิเคเตอร์” ต่าง ๆ การดู "กราฟแท่งเทียน" ได้อย่างชำนาญ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบว่าทิศทางต่อไปมีความน่าจะเป็นไปทางไหน เพราะสาเหตุใด และหากเราคาดคะเนผิด ก็จะบอกตัวเองได้ว่าจุดไหนที่เราต้องปรับปรุง จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการเทรดได้




ไม่แนะนำให้คุณนำเงินมาเสี่ยงในตลาดนี้อย่างไม่รู้ที่มาที่ไป เพราะเงินทองเป็นของหายาก หากเกิดการสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็คือความสูญเสียทั้งสิ้น เพราะนั่นหมายถึงจะไปกระทบจิตใจของคุณด้วย ในบางรายพบว่าตนเองเล่นแล้วเข้าทางดีมากทำให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ในบางรายกลับพบว่าตนเองเล่นหรือเทรดอย่างไรก็เสียอยู่เช่นนั้น ยิ่งเทรดก็ยิ่งเสีย ยิ่งเสียก็ยิ่งอยากเอาคืน นั่นเป็นเพราะระบบความคิด ระบบความรู้และจังหวะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

ที่สำคัญคือเงินทุนของคุณจะเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงเหล่านั้นด้วยว่า คุณสามารถที่จะเสี่ยงและยอมรับมันได้มากน้อยแค่ไหน บางคนมีทุนมากก็พร้อมที่จะเสี่ยงได้มากและเสี่ยงได้ในระยะเวลานานมากกว่าคนที่มีทุนน้อย ผู้ที่มีทุนน้อยอาจจะต้องล่าถอยออกไปตั้งหลักใหม่ ไม่ว่าคุณพร้อมมากแค่ไหนก็ตามในเรื่องเงินทุน ขอให้รู้ไว้เถิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ที่ปรับระบบความคิดได้ก่อน หมายถึงการเทรดอย่างเป็นระบบ นั่นคือผู้ได้เปรียบในตลาดนี้ เพราะไม่ได้หมายความว่ามีเงินแล้วจะรอดปลอดภัยเสมอไป เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ที่ความรวยกับความจนอยู่ใกล้กันเหลือเกิน

binary option ยังไม่หายไปไหน รอให้คุณสร้างระบบเทรดที่สุดยอดสำหรับคุณเพื่อจะได้มาเก็บกำไรกันได้ทุกวัน 24 ชัวโมงกันไปเลย นักเทรดคุณภาพ กับระบบคุณภาพ คุณจะต้องเรียนรู้อย่างจริงจังว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร ระบบคุณภาพคุณต้องสร้างมันขึ้นมาเอง เพราะคุณเท่านั้นที่จะบอกตัวเองได้ว่าระบบนี้แหละ การดูกราฟ หรือแท่งเทียนในลักษณะนี้ ตอบโจทย์ชีวิตการเทรดคุณมากที่สุด แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับคนอื่น ๆ หากมีใครไม่เข้าใจระบบเทรดของคุณ ก็อย่าไปหวั่นไหว เอาแค่ว่าคุณสามารถทำกำไรกับระบบที่คุณสร้างมันขึ้นมาได้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

รู้จัก Neteller ธนาคารออนไลน์




Neteller คือธนาคารออนไลน์ที่มีความสะดวกมากในการฝากถอนสำหรับการเทรด และสามารถใช้ซื้อสินค้าหรือบริการได้อีกด้วย ซึ่งจะมีขั้นตอนในการสมัครที่ไม่ยากมาก ทำรายการไปตามที่ระบบแจ้งไปอย่างเป็นขั้นตอน และจำเป็นต้องเตรียมบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนด้วย หากขั้นตอนการสมัครผ่านเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับบัตรของ Neteller และกลับเข้าไปทำการยืนยัน code ในระบบอีกครั้ง คุณก็สามารถใช้งานเกี่ยวกับการเทรดได้ทันที และการโอนเงินจาก Neteller เข้าไปยังโบรคเกอร์จะไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด 




จะพบว่ามีช่องทางการในการฝากเงินหรือถอนเงินอยู่หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
Credit and Debit Cards :
  • MasterCard Credit
  • Visa Credit
  • Visa Debit
  • Visa Electron
  • MasterCard Debit
  • Maestro


Alternative Deposit Options :
  • Skrill
  • Bitcoin
  • Quick Bank Transfer

เป็นต้น


Neteller มีทั้งโบรคเกอร์และเว็บไซต์จำนวนมากทั่วโลก ที่คุณสามารถใช้ทำธุรกรรมได้อย่างสะดวก ซึ่งค่าธรรมเนียมการโอนเงินสำหรับการใช้บริกการบางรายการก็ไม่ได้สูงมาก จึงไม่ต้องกังวลกับเรื่องดังกล่าว

สมัครใช้งาน : https://www.neteller.com/




Exness