การตกลงไปถึงจุดต่ำสุดเหมือนตกเหวลึก จะทำให้รู้สึกถึงความเลวร้ายในชีวิตอย่างมาก มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและน่าอายเมื่อนักเทรดเดินมาถึงจุดนี้ นักเทรดเสียเงินที่ไม่สามารถเสียได้ไปซะแล้ว เมื่อมาถึงจุดนั้นเงินเก็บออมทั้งหมดของคุณก็เดินจากกระเป๋าของคุณไปจนหมดสิ้น หลังจากที่คุณได้บอกเพื่อนๆของคุณไปว่าคุณเก่งเพียงใดในตลาดแห่งนี้ แต่ต่อมาคุณกลับต้องไปขอยืมเงินจากพวกเขา นั่นหมายความว่าคุณมาถึงจุดต่ำสุดของการเป็นเทรดเดอร์แล้ว
นักเทรดบางคนมาถึงจุดต่ำสุดหลังจากที่เข้ามาเทรดได้เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ บางคนเติมเงินเข้าไปในบัญชีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเลื่อนเวลาการล้างพอร์ตออกไปเท่านั้นเอง มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่คุณได้มองเห็นเงาของผู้แพ้ในกระจกซึ่งมันก็คือตัวของคุณเอง นักเทรดส่วนใหญ่จะประเมินค่าตัวเองเอาไว้สูง แต่จำเอาไว้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่เป็นเช่นนี้ เทรดเดอร์เกือบทุกคนเคยผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งสิ้น แต่จะมากบ้างน้อยบ้างก็แตกต่างกันไปตามต้นทุนของแต่ละคน
เทรดเดอร์หลายคนที่มาถึงจุดต่ำสุดจะออกตลาดไปแบบเงียบๆ และไม่เคยกลับมาอีกเลย บางคนที่กำลังเทรดอยู่ในวันนี้ก็จะจากไปในอีก 1 ปีข้างหน้าหรือไม่ก็เร็วกว่านั้น พวกเขาอาจจะตกลงมาถึงจุดต่ำสุดด้วยฝันอันแสนเลวร้ายแล้วก็จากไป นักเทรดพยายามที่จะลืมการเทรดไป ให้เหมือนกับการลืมฝันร้าย บางคนหลบหายไปรอจนกระทั่งความเจ็บปวดจางลง จากนั้นก็กลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง ด้วยการที่เคยได้รับบทเรียนไปแล้ว นักเทรดเหล่านี้จะมีความรู้สึกหวาดกลัวและความหวาดกลัวนั่นแหละจะทำให้การเทรดของยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
โชคดีที่จะเจอบางคนเร่งปรับขึ้นมาจากจุดต่ำสุด และเริ่มเข้าสู่ขบวนการของการเปลี่ยนแปลงและเติบโตพร้อม ๆ กับการยอมรับว่าปัญหาส่วนตัวคืออิทธิพลของจิตใจเป็นสาเหตุที่ทำให้นักเทรดต้องขาดทุน แบบนี้จะทำให้นักเทรดเริ่มต้นสร้างชีวิตการเทรดขึ้นมาใหม่ได้ และนักเทรดจำพวกนี้ก็สามารถที่จะเริ่มพัฒนาวินัยของผู้ชนะขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน
หากจะเปรียบเทียบไปตลาดการเทรดก็เหมือนกับทะเล มันเคลื่อนไหวขึ้นและลงไม่ว่านักเทรดต้องการที่จะให้มันเป็นอย่างไรก็ตาม นักเทรดอาจรู้สึกมีความสุขเมื่อเปิดสถานะซื้อหุ้นและมันวิ่งกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และอาจรู้สึกเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเปิดสถานะ shot แต่ตลาดกับวิ่งขึ้นและทำลายเงินทุนของคุณด้วยทุกๆช่องราคาที่มันวิ่งขึ้นไป ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับตลาดเลย มันก็วิ่งของมันไปตามวอลลุ่ม แต่สิ่งที่มันเคลื่อนไหวขึ้นลงไปมายิ่งกว่าตลาดก็คือความคิดในใจของคุณเองที่ยังนิ่งไม่พอ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น