แท้จริงแล้วความล้มเหลวที่พบอยู่บ่อย ๆ สำหรับนักลงทุนก็คือ การที่นักลงทุน นักเทรดค่าเงินไม่ติดอาวุธทางความรู้มาด้วย เดินเข้าในตลาดแบบทื่อ ๆ เกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะว่าแหล่งข้อมูล แหล่งความรู้มีมากมายเกินไป บ้างก็เป็นข้อมูลที่ผิด บ้างก็กึ่งผิดกึ่งถูก เพราะผู้ที่ให้ข้อมูลมานั้นก็ประมวลผลมาจากความคิดของตนเองซะส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามปัญหาทุกอย่างต้องแก้ไขได้ ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อเท่านั้น หากคุณเชื่อมั่นว่าตัวเองจะแก้ไขปัญหาได้คุณก็จะมีแรงผลักดันที่จะทำมันต่อไป
เชื่อว่าการเทรดแล้วได้กำไรในระยะยาวเป็นไปได้
เมื่อคุณผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าจากการเทรด หรือจากการเล่นหุ้น แม้เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง ก็ทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจ และคิดว่าตลาดเทรดนี้ไม่เหมาะกับคุณ แต่คุณไม่ได้มองอีกมุมหนึ่งว่าแล้วทำไมยังมีคนที่ประสบความสำเร็จอยู่ในตลาดนี้ได้อีกจำนวนหนึ่ง เค้าคิด เค้าทำอย่างไร จึงสามารถมีความเชื่อและเทรดได้มาแล้วกว่า 10 ปี เป็นเรื่องที่คุณต้องหาคำตอบครับ แต่ที่แน่ ๆ เค้าเหล่านั้นผ่านการขาดทุนมาไม่น้อย และบ่อยกว่าที่คุณคิดเยอะครับ
เชื่อในการลงมือทำอย่างจริงจังแล้วจะสำเร็จ
ก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่าคุณได้ลงมือทำอย่างจริงจังหรือยัง หมายถึงศึกษาอย่างจริงจัง และศึกษาได้อย่างถูกต้อง ที่สำคัญคุณให้โอกาสตัวเองมากน้อยแค่ไหน หากคุณหวังว่าจะต้องเข้าใจทุกสิ่งอย่างในตลาดภายใน 1-2 เดือน หรือเข้าใจโดยอ่านหนังสือ 1-2 เล่มจบ แบบนี้ถือว่ายังไม่ผ่าน เพราะต้องประกอบกับการลงมือทดสอบด้วย การรับข้อมูลมาเป็นเพียงทฤษฏีเท่านั้น ต้องลงมือปฏิบัติอีกครั้งจากนั้นก็นำมาปรับให้เข้าจริตการเทรดของคุณอีกครั้ง บางทีคุณอาจค้นพบวิธีการทำกำไรที่เทรดเดอร์มืออาชีพไม่เห็นด้วย แต่คุณกลับทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามการเทรดแบบมีความสุข ไม่เครียดสำคัญที่สุด นักเทรดหลาย ๆ คนมีความเครียดในขณะเทรดในระดับสูงมากเพราะคาดหวังไว้มากว่าต้องมีกำไร ทำให้บรรยากาศในครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติมิตรดูจะอึมครึม หากผลการเทรดออกมาว่าคุณมีกำไรบรรยากาศก็จะสนุกสนาน และหากไม่เป็นไปอย่างที่คิดคุณจะแสดงความเครียดออกมาในทุก ๆ ทางจนผู้คนรอบข้างไม่อยากจะอยู่ด้วยเลย เทรดเดอร์ก็เหมือนกับเราทำอาชีพหนึ่ง คือลงมือทำตามหน้าที่ พอเสร็จหน้าที่แล้วก็พักผ่อน มีส่วนไหนผิดพลาดก็นำกลับไปแก้ไขในวันพรุ่งนี้ต่อไป มีเท่านี้จริง ๆ ครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น